คำอธิบาย

โคคิวเท็น

ยูบิควินอลโคคิวเท็น Ubiquinol CoQ10 เป็นผลิตภัณฑ์ GenomeCuetical ที่ทำงานโดยตรงต่อ ยีน CoQ10 ในหัวใจ

GenomeCeutical นวัตกรรมใหม่ของอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ จาก UNICITY อเมริกา เป็น อาหารเสริมออกฤทธิ์เชิงยา มีจำหน่ายกว่า 55 ประเทศทั่วโลก

ราคาปลีก 1,313บาท

ราคาสมาชิก –

ติดต่อทางไลน์

ติดต่อโทร 084-9009797

โคเอนไซม์คิว10 เป็นสารคล้ายวิตามินที่พบได้ในทุกเซลล์ของร่างกาย ร่างกายเราผลิต โคคิวเท็น แต่อยู่ในรูปของ Ubiquinone CoQ10 ซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนมันมาในรูป Ubiquinol CoQ10 เพื่อใช้งาน แต่เมื่ออายุเราขึ้นหลัก สามสิบ ความสามารถในการเปลี่ยน Ubiquinone เป็น Ubiquinol จะค่อยๆลดลง ซึ่งนั้นคือเหตุผลที่เรากล้ามเนื้อเริ่มหมดแรง เมื่ออายุสูงขึ้น

ถ้าร่างกายเรามี โคคิวเทนที่ไม่เพียงพอ เราก็จะรู้สึกเหนื่อยล้า ปวดเมื่อยเนื้อตัว หรืออาจจะเป็นสาเหตุต่อ การเกิดโรคร้ายแรงอย่างเช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือแม้แต่ภาวะไทรอยด์สูงได้ เป็นต้น

CoQ10 ไม่ได้ให้พลังงานโดยตรงแก่ร่างกาย แต่เป็นโคเอนซัยม์ที่จำเป็น ในการจุดเริ่มปฏิกิริยาเคมี เพื่อสร้างพลังงาน ATP จึงมีความสำคัญต่อกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหัวใจ เนื่องจากหัวใจต้อง
ทำงานตลอดเวลา ไม่ว่ายามตื่นหรือหลับ

กล้ามเนื้อหัวใจ เมื่อทำงานหนักที่สุด จึงต้องการพลังงานมากที่สุด มันจึงต้องการ CoQ10 จำนวนมากเพื่อทำให้หัวใจได้รับพลังอย่างเพียงพอและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไมโตคอนเดรีย CoQ10

9สิ่ง ที่ผู้ใช้ยา Statin ควรรู้เกี่ยวกับ CoQ10 ดูได้ที่ลิงค์นี้ 9 Things Statin Users Should Know About CoQ10 By Dr. Sam Bailey

ผู้ที่เป็น โรคไขมันในเลือดสูง ต้องกินยาลดไขมันในเลือด โดยเฉพาะยากลุ่ม Statin เพื่อลด คลอเลสเตอรอล แต่ Statin ไม่ได้ลดเฉพาะคลอเลสเตอรอล
มันลด โคคิวเท็น ด้วย

ในวงการแพทย์ใช้ยาลดไขมัน (statin) ซึ่งออกฤทธิ์ต่อตับ กดการสร้างคอเลสเตอรอล…ผลเสียข้างเคียงคือ กดการสร้างโคคิวเทน อเซทิลโคลีน ซีโรโทนิน เมลาโทนิน ไปด้วย

เมื่อโคคิวเท็น ลดลง กระบวนการผลิตพลังงาน ATP จึงลดลงด้วย
( ATP [adenosine triphosphate อะดีโนซีนไตรฟอสเฟต] เป็นสารให้พลังงานสูงแก่เซลล์ )

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกล้ามเนื้อ จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมคนที่กินยาลดไขมัน จึงมักปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง และ กล้ามเนื้อลีบ ผู้ที่กิน ยาลดไขมันในเลือด Statin จึงจำเป็นต้องกิน โคคิวเท็น เสริมเข้าไปคืน
ในจำนวนมากกว่าคนปกติ

โคคิวเทน CoQ10 เป็น Antioxidant ช่วยต้านอนุมูลอิสระทีดีมาก โดยจะคอยปกป้องผนังเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายจาก Oxidative stress อันจะก่อให้เกิด โรคแห่งความเสื่อม และ ปกป้องไมโตคอนเดรียและ DNA ทำให้เซลล์ไม่เสื่อม หรือแก่ตัวเร็ว หรือชรา หรือกลายเป็นมะเร็ง และในผนังหลอดเลือด CoQ10 จะช่วยไม่ให้ LDL ไขมันเลวกลายสภาพเป็นพิษ

ทำไมต้องเลือก Ubiquinol-CoQ10

ยูบิควินอล โคคิวเทน Ubiquinol-CoQ10 ต่างจาก CoQ10 ทั่วไปอย่างไง
1. เป็น Ubiquinol-CoQ10 ที่ร่างกายนำไปใช้ได้หมด เพราะร่างกายไม่ต้องเสียพลังงานเปลี่ยน Ubiquinone เป็น Ubiquinol ในขณะที่ยี่ห้ออื่นทั่วไปเป็น CoQ10 ที่ดูดซึมผ่านทางเดินอาหารได้ยากและร่างกายจะดูดซึมได้ในสภาวะที่มีไขมัน

2. Ubiquinol ผลิตได้ยาก มีเพียงไม่กี่บริษัทที่ผลิตได้ ส่วนใหญ่เป็น CoQ10 ทั่วไป มีรายงานการศึกษาถึงประสิทธิภาพของ Ubiquinol ที่มีสูงกว่า CoQ10 รูปปกติถึง 8-10 เท่า

3. ซอฟต์เจลพิเศษ Ubiquinol มีความไวสูงต่ออากาศและแสง ทำให้เสื่อมสภาพได้อย่างรวดเร็วหากสัมผัสอากาศ Ubiquinol-CoQ10 ใช้นวตกรรมซอฟต์เจลพิเศษ ที่ทำให้มั่นใจได้ว่า Ubiquinol จะไม่เสื่อมสภาพก่อนบริโภค

4. เป็น GenomeCuetical ที่ออกฤทธิ์ในระดับของ Gene ซ่อมและสร้างเซลล์ขึ้นใหม่ได้

5. ช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจล้มเหลวแบบเฉียบพลัน จากการใช้ยากลุ่ม Statin

ข้อจำกัด โคคิวเทน ทั่วไป
-โคคิวเทนเป็นสารที่ ดูดซึมผ่านทางเดินอาหารยากมาก แต่จะดูดซึมได้ดีมากขึ้นในสภาวะที่มีไขมัน
ดังนั้นในการรับประทานโคคิวเทนเราจึงควรทานในมื้ออาหารที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบเสมอ
ไม่ควรทานตอนท้องว่าง

CoQ10 ขนาดรับประทาน ที่แนะนำ

ผู้ที่ใช้ยาลดไขมันคลอเลสเตอรอลกลุ่มสแตติน ขนาดที่แนะนำให้ทาน ครั้งละ 50 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง

ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง หรืออ่อนเพลียเรื้อรัง ขนาดที่แนะนำให้ทาน ครั้งละ 50 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง

ผู้ที่ใช้ยาลดไขมันคลอเลสเตอรอลกลุ่มสแตติน (ที่มีโรคเบาหวาน และ/หรือความดันโลหิตสูงร่วมด้วย) ขนาดที่แนะนำให้ทาน ครั้งละ 100 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง

ผู้ที่มีภาวะการทำงานของสมองผิดปกติ เช่น ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์, ผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน หรือผู้ป่วยโรคหัวใจที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ ขนาดที่แนะนำให้ทาน ครั้งละ 100 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง

ผู้ที่ต้องการเสริมเพื่อป้องกันโรคจากความเสื่อมต่าง ๆ ของร่างกาย หรือเป็นโรคเหงือกอักเสบ ขนาดที่แนะนำให้ทาน ครั้งละ 50 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง